RSS

Tag Archives: ทศบารมี

มาเป็นผู้มีบารมีกันเถอะ

ในการปฏิบัติธรรม สิ่งที่สำคัญมาก ที่พวกเรามักจะมองข้ามกันคือการสั่งสม “บารมี10” ครับ

“บารมี10” นี่ไม่ได้แปลว่า “อำนาจ” นะครับ แต่แปลว่า “กำลังใจ” การสั่งสมบารมี คือ การสั่งสมกำลังใจ เป็นการการฝึกให้ตนมีกำลังใจเข้มแข็ง มีจิตที่แข็งแรง สละลดละกิเลส

เราลองมาดูกันดีกว่าครับว่า บารมีทั้ง10 มีอะไรบ้าง เราจะได้มาสั่งสมกันเพื่อที่เราจะได้เป็นผู้มีบารมีกัน ^ ^

*************************************************************

*************************************************************

ทีนี้บารมี10 เนี่ยครับ ถ้าใครสงสัยว่า จะต้องทำยังไงบ้าง เราก็สามารถดูตัวอย่างได้จากประวัติพระพุทธเจ้าครับ ในพระไตรปิฏกได้กล่าวถึงอดีตชาติต่างๆที่พระพุทธเจ้าของเราท่านได้สะสมบารมีทั้งสิบ

เราลองมาดูกันครับว่า ทั้งสิบชาติมีอะไรบ้าง

  1. พระเตมีย์ — เนกขัมมะ
  2. พระมหาชนก — วิริยะ
  3. พระสุวรรณสาม — เมตตา
  4. พระเนมิราช — อธิษฐาน
  5. พระมโหสถ — ปัญญา
  6. พระภูริทัตต์ — ศีล
  7. พระจันทกุมาร — ขันติ
  8. พระนารทะ — อุเบกขา
  9. พระวิธุระ — สัจจะ
  10. พระเวสสันดร — ทาน

รายละเอียดของทั้ง 10 พระชาตินี้ เล่าแล้วยาวครับ ถ้าใครสนใจก็ลองไปค้นgoogleดูนะครับ หาอ่านได้ไม่ยาก

เห็นมั้ยครับ ถ้าเราทำตามทั้ง 10 ข้อนี้ได้ เราก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบารมี ในความหมายของพระพุทธศาสนา ^ ^

*************************************************************

ที่่มาครับ http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%BA%D2%C3%C1%D5

*************************************************************

เรื่องที่เกี่ยวของ

อยากเป็นพระพุทธเจ้า ต้องทำอย่างไร?

ทำไมพระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็นสัตว์?

 
2 Comments

Posted by on February 17, 2011 in ธรรมะ

 

Tags: , , , ,

อยากเป็นพระพุทธเจ้า ต้องทำอย่างไร?

เคยได้ยินคนถามครับ ว่า ถ้าอยากเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง ต้องทำอย่างไร?

ก่อนอื่นเราต้องมาทำเข้าใจก่อนครับ ว่าพระพุทธเจ้าคือใคร แล้วทำอย่างไรถึงจะได้เป็นพระพุทธเจ้า

****************************************************************************

พระพุทธเจ้าคือใคร

พระพุทธเจ้า คือ ผู้ที่ตรัสรู้ได้ด้วยพระองค์เองครับ เราเรียกท่านว่า “พุทธภูมิ”

พุทธภูมิแบ่งออกเป็น 2 ประเภทครับ คือ

  • พระสัมมาสัมพุทธเจ้า – ผู้ที่พ้นทุกข์ได้ด้วยพระองค์เอง และ สอนสั่ง ประกาศออกเป็นศาสนา
  • พระปัจเจกพุทธเจ้า – ผู้ที่พ้นทุกข์ได้ด้วยพระองค์เอง แต่ไม่ได้สอนสั่ง

เรายังมีอีกคำนึงครับ คือ “สาวกภูมิ” เป็นคำไว้เรียกคนที่เหลือ คนที่ต้องรอคำสอนจากพระพุทธเจ้า ถึงจะพ้นทุกข์ได้

ทีนี้ใครอยากเป็นพระพุทธเจ้า ก็ต้องเลือกก่อนครับว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าแบบใหน แต่ในที่นี้ผมขอเล่าถึงเฉพาะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นะครับ

****************************************************************************

พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีกี่ประเภท

พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีทั้งหมด 3 ประเภทครับ คือ

  • ปัญญาธิกะ – คือพระพุทธเจ้า ที่สร้างบารมีโดยใช้ “ปัญญา” เป็นตัวนำ
  • ศรัทธาธิกะ -คือพระพุทธเจ้า ที่สร้างบารมีโดยใช้ “ศรัทธา” เป็นตัวนำ
  • วิริยาธิกะ – คือพระพุทธเจ้า ที่สร้างบารมีโดยใช้ “วิริยะ” เป็นตัวนำ

*** พระพุทธเจ้าของเรา ท่านเป็น ปัญญาธิกะ ครับ

ถามว่าแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง …​ หลักๆก็คือ ระยะเวลาในการสั่งสมพระบารมีครับ ผมได้ทำสรุปไว้แล้ว ลองดูได้เลยครับ

อ้างอิงครับ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8630

ผู้ที่กำลังสะสมบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า เราจะำเรียกท่านว่า “พระโพธิสัตว์” ครับ

ถามว่า เราสามารถเลือกได้มั้ย ว่าเราอยากเป็นพระพุทธเจ้าแบบใหน … ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ถ้าเข้าใจไม่ผิด เลือกไม่ได้ครับ แล้วแต่จริตของแต่ละท่าน

ทีนี้มีรายละเอียดอยู่นิดหน่อย คือ เราจะสังเกตุเห็นว่า การสะสมบารมีนั้น แบ่งออกเป็น 3 ช่วง

ถ้าท่านผู้ใดถึงช่วงที่ 3 แล้ว คือได้รับพุทธทำนายจากพระพุทธเจ้า ท่านผู้นั้น จะเที่ยงต่อการได้เป็นพระพุทธเจ้าครับ คือ ต้องได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน ต่างจาก2ช่วงแรก ที่ยังมีโอกาสถอดใจ เลิกเป็นพระพุทธเจ้า

เราเีรียกผู้ทีเที่ยงต่อการเป็นพระพุทธเจ้าว่า นิยตโพธิสัตว์ ส่วนผู้ที่ยังไม่เที่ยงต่อการเป็นพระพุทธเจ้า เราจะเรียกว่า อนิยตโพธิสัตว์ ครับ

ทีนี้ การจะได้รับพุทธทำนายเนี่ย ก็ไม่ใช่ว่าจะได้รับกันง่ายๆนะครับ ในชาติที่จะได้รับพุทธทำนายนั้นต้องมีคุณบัติครบ 8 ประการด้่วย เรียกว่า “อัฏฐธรรมสโมธาน ๘”

  1. มนุสสัตตัง – มีอัตภาพเป็นมนุษย์
  2. ลิงคสัมปัตติ – เป็นบุรุษเพศ ไม่เป็นสตรีหรือบัณเฑาะก์
  3. เหตุ – ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัยพร้อมบรรลุมรรคผลได้ในขณะนั้น
  4. สัตถารทัสสนะ – พบพระพุทธเจ้าเฉพาะหน้า
  5. ปัพพัชชา – อยู่ในเพศบรรพชิต
  6. คุณสัมปัตติ – เป็นผู้มีโพธิญาณ คือ อภิญญา ๕ และสมาบัติ ๘
  7. อธิกาโร – มีการกระทำที่ยิ่งใหญ่ แม้ชีวิตของตนก็สละแด่พระโพธิญาณได้
  8. ฉันทตา – เป็นผู้มีจิตรักพระโพธิญาณมั่นคง

อ้างอิงครับ http://board.palungjit.com/f13/อานิสงส์-๑๘-ประการของพระนิยตโพธิสัตว์-155804.html

พอรุ่งอรุณก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เทวดาฝ่ายฟ้อนร่อนรำถวายเป็นพุทธบูชา

****************************************************************************

บารมีที่ต้องสะสม

เราก็รู้แล้วนะครับ ว่า พระพุทธเจ้ามีกี่ประเภท ใช้เวลาสั่งสมพระบารมีนานเท่าไหร่ แต่ว่า บารมีมีอะไรบ้างหล่ะ?

บารมี 10 ประเภทครับ และ แต่ละประเภทเนี่ย ก็แยกย่อยออกเป็น 3 ระดับ การจะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ต้องสะสมบารมีทั้ง 10 ให้เต็ม เรามาดูกันครับว่า บารมี 10มีอะไรบ้าง

  1. ทาน (การให้ การเสียสละ)
  2. ศีล (การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย, ความประพฤติดีงามถูกต้องตามระเบียบวินัย)
  3. เนกขัมมะ (การออกบวช, ความปลีกตัวปลีกใจจากกาม)
  4. ปัญญา (ความรอบรู้, ความหยั่งรู้เหตุผล เข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง)
  5. วิริยะ (ความเพียร, ความแกล้วกล้า ไม่เกรงกลัวอุปสรรค พยายามบากบั่นอุตสาหะ ก้าวหน้าเรื่อยไป ไม่ทอดทิ้งธุระหน้าที่)
  6. ขันติ (ความอดทน, ความทนทานของจิตใจ สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนให้อยู่ในอำนาจเหตุผล และแนวทางความประะพฤติ ที่ตั้งไว้เพื่อจุดหมายอันชอบไม่ลุอำนาจกิเลส)
  7. สัจจะ (ความจริง คือ พูดจริง ทำจริง และจริงใจ)
  8. อธิษฐาน (ความตั้งใจมั่น, การตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางจุดหมายแห่งการกระทำของตนไว้แน่นอน และดำเนินตามนั้นแน่นแน่)
  9. เมตตา (ความรักใคร่, ความปรารถนาดี มีไมตรี คิดเกื้อกูลให้ผู้อื่นและเพื่อนร่วมโลกทั้งปวงมีความสุขความเจริญ)
  10. อุเบกขา (ความวางใจเป็นกลาง, ความวางใจสงบราบเรียบสม่ำเสมอ เที่ยงธรรม ไม่เอนเอียงไปด้วยความยินดียินร้ายหรือชอบฟัง)

อ้างอิงครับ http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=325

แล้วบารมี 3 ระดับมีอะไรบ้าง

  1. “บารมี” – ทรงบำเพ็ญเพื่อพระโพธิญาณ โดยไม่คำนึงถึงทรัพย์สมบัติ  ยศฐาบรรดาศักดิ์  และคนที่พระองค์รัก
  2. “อุปบารมี” – ทรงบำเพ็ญบารมีเพื่อพระโพธิญาณ โดยไม่คำนึงถึงอวัยวะร่างกาย
  3. “ปรมัตถบารมี” – ทรงบำเพ็ญบารมีเพื่อพระโพธิญาณ โดยไม่คำนึงถึงชีวิต

อ้างอิงครับ http://www.jariyatam.com/ten-fo-buddha/59-2009-06-21-02-06-12

เราก็จะเห็นนะครับ ว่ามีบารมีที่ต้องสะสมอยู่ 10 ประการ แล้วก็ยังแบ่งออกเป็น 3 ระดับ เราจึงนิยมเรียกว่า บารมี 30

ในประไตรปิฏกมีบันทึกไว้นะครับ ว่า พระพุทธเจ้าของเราท่านทรงบำเพ็ญบารมีอย่างไรบ้าง เรามักจะเรียกกันว่า พระเจ้า ๓๐ ชาติ ถ้าใครสนใจก็ไปหาซื้อหนังสืออ่านได้ครับ มีคนรวมเล่มออกมาขายมากมาย

ที่มาของรูปครับ  http://palungjit.com/feature/showphoto.php?photo=22662&size=big

****************************************************************************

หวังว่านี้คงพอจะเป็นแนวทางคร่าวๆให้สำหรับท่านที่อยากจะเป็นพระพุทธเจ้านะครับ

แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าเริ่มต้นยังไงดี ผมก็แนะนำให้หาหนังสือเกี่ยวกับอดีตชาติของพระพุทธเจ้ามาอ่านครับ จะได้ทราบว่า พระพุทธเจ้าของเราท่านได้ทรงทำอะไรมาบ้างกว่าจะถึงวันนี้ หนังสือที่แนะนำก็เป็นพวก ทศบารมี พระเจ้า๑๐ชาติ พระเจ้า๓๐ชาติ พระเจ้า๕๐๐ชาติ

สุดท้ายนี้ ผมขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ ที่มีปณิธานอันยิ่งใหญ่นี้

****************************************************************************

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

วิธีนับอสงไขย

มาเป็นผู้มีบารมีกันเถอะ

ทำไมพระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็นสัตว์?

 
29 Comments

Posted by on February 7, 2011 in ธรรมะ

 

Tags: , , , , , , , , , , , , ,