RSS

พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญทุกรกิรยาอย่างไร?

08 Oct

เคยสงสัยครับว่า พระพุทธเจ้าท่านทรงบำเพ็ญทุกรกิริยายังไงบ้าง อดข้าวอย่างเดียวหรือเปล่า

จนมาวันนี้ผมได้ เจอรายละเอียดของการบำเพ็ญทุกรกิริยาจากหนังสือ“พุทธประวัติจากพระโอษฐ์” โดยท่าน พุทธทาส ภิกขุ ครับ ลองอ่านกันดูนะครับ

*********************************************

ทรงกลั้นลมหายใจ

วาระที่๑: ทรงขบฟันด้วยฟัน อัดเพดานด้วยลิ้น ข่มจิตด้วยจิต บีบให้แน่นจนร้อนจัด – เหงื่อไหลออกจากรักแร้ทั้งสอง เปรียบเหมือนคนที่แข็งแรงจับคนกำนังน้อยที่ศีรษะหรือคอ บีบให้แน่นจนร้อนจัด

วาระที่๒: ทรงกลั้นลมหายใจออกเข้าทั้งทางจมูกและทางปาก – เสียงลมออกทางช่องหูทั้งสองดังเหลือประมาณ เหมือนเสียงลมในสูบแห่งช่างทองที่สูบไปมา

วาระที่๓: ทรงทรงกลั้นลมหายใจออกเข้า ทั้งทางจมูกทางปากและทางช่องหูทั้งสอง – ลมกล้าเหลือประมาณแทงเซาะขึ้นไปบนกระหม่อม เหมือนถูกบุรุษแข็งแรง เชือดเอาที่แสกกระหม่อมด้วยมีดโกนอันคม

วาระที่๔: ทรงกลั้นลมหายใจออกเข้า ทั้งทางจมูกทางปากและทางช่องหูทั้งสอง (ทรงทำให้ยิ่งขึ้นไปอีก) – ทรงรู้สึกปวดศีรษะทั่วไปทั้งศีรษะ เหลือประมาณ เปรียบปานถูกบุรุษแข็งแรง รัดศีรษะเข้าทั้งศีรษะด้วยเชือกมีเกลียวอันแขม็งฉะนั้น

วาระที่๕: ทรงกลั้นลมหายใจออกเข้า ทั้งทางจมูกทางปากและทางช่องหูทั้งสอง (ทรงทำให้ยิ่งขึ้นไปอีก) – ลมกล้าเหลือประมาณหวนกลับแทงเอาพื้นท้อง ดุจถูกคนฆ่าโคหรือลูกมือตัวขยันของเขา เฉือนเนื้อพื้นท้องด้วยมีดสำหรับเฉือนเนื้อโคอันคมฉะนั้น

วาระที่๖ทรงกลั้นลมหายใจออกเข้า ทั้งทางจมูกทางปากและทางช่องหูทั้งสอง (ทรงทำให้ยิ่งขึ้นไปอีก) – ก็เกิดความร้อนกล้าขึ้นทั่วกาย ดุจถูกคนแข็งแรงสองคนช่วยกันจับคนกำลังน้อยที่แขนข้างละคนแล้ว ย่างรมไว้เหนือหลุมถ่านเพลิงอันระอุ

ขณะนั้นเทวดาทั้งหลายเมื่อเห็นแล้ว;

  • บ้างกล่าวว่า “พระสมณโคดมทำกาละ(เสียชีวิต)แล้ว”
  • บ้างกล่าวว่า “พระสมณโคดมไม่ได้ทำกาละแล้ว เป็นแต่กำลังทำกาละอยู่”
  • บ้างกล่าวว่า “พระสมณโคดมไม่ได้ เป็นทั้งสองอย่างนั้น ท่านเป็นอรหันต์แล้ว นั่นคือการเป็นอยู่ของพระอรหันต์”

วาระที่๗: เทวดามาหา แล้วขอร้องให้พระองค์เลิกอดอาหาร โดยพวกเทวดาจะแทรกอาหารทิพย์ลงตามขุมขนของพระองค์ พระพุทธเจ้าจึงคิดในใจว่า“ถ้าท่านรับอาหารทิพย์ ก็เท่ากับท่านมุสา” ท่านจึงห้ามเทวดาทั้งหลายว่าอย่าเลย

*********************************************

ทรงอดอาหาร

ท่านได้ค่อยๆลดอาหารที่เสวยลง จนเหลือวันนึงเท่ากับ “เยื่อในเมล็ดบัว” เมื่อท่านเสวยอาหารน้อยเพียงนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับพระวรกายคือ

  • อวัยวะน้อยใหญ่ของท่านเปรียบเหมือนเถาวัลย์อาสีติกบรรพ
  • เนื้อที่สะโพกที่นั่งทับของท่าน มีสัณฐาานดังเท้าอูฐ
  • ข้อกระดูกสันหลังผุดขึ้นระเกะระกะราวกับเถาวัลย์วัฏฏนาวลี
  • ซีโครงของท่านโหรงเหรงเหมือนกับกลอนศาลา อันเก่าคร่ำคร่า
  • ดวงตา ลึกอยู่ในกระบอกตา
  • ผิวหนังศีรษะ เหี่ยวย่นเหมือนน้ำเต้าอ่อนที่ตัดมาแต่ยังสด ถูกแดดเผาเหี่ยวย่น

เมื่อพระองค์คิดจะจับท้อง ก็ถูกถึงกระดูกสันหลัง เมื่อพระองค์คิดจะจับกระดูกสันหลัง ก็จับถูกเข้าถึงท้อง

เม่ื่อพระองค์คิดจะถ่ายปัสสาวะหรืออุจาระ ก็เซล้มราบอยู่ ณ ที่นั้น

เมื่อพระองค์ลูบพระวรกาย ขนที่มีรากเน่าก็หลุดติดมืออกมาก

*********************************************

ทรงประพฤติเช่นเดียวกับวัตรของเดียรถีย์

ทรงตรัสเล่าแก่พระสารีบุตร ซึ่งในบาลีไม่ได้แสดงไว้ชัดว่า ทรงทำก่อนหรือหลังการไปสำนัก ๒ ดาบส หรือคราวเดียวกับทุกรกิริยา

ตปัสสสีวัตร (วัตรเพื่อมีตบะ)

เปลือยกาย เช็ดอุจจาระด้วยมือของตน

ไม่รับอาหารจากหลายๆกรณีเช่น … มีผู้ร้องเชิญ, มีผู้เจาะจงให้, ไม่รับอาหารจากภาชนะ, ไม่รับจากสตรีมีครรภ์, ฯลฯ

นุ่งห่มผ้าป่านบ้าง, ผ้าคลุกฝุ่นบ้าง, หุ่งห่มแผ่นหญ้าคากรองบ้าง, ฯลฯ

ทรงยืนกระโหย่งไม่นั่ง, เดินกระโหย่ง, เดินบนหนาม, นอนบนหนาม, ลงสุ่น้ำเวลาเย็น, ฯลฯ

ลูขวัตร (วัตรในการเศร้าหมอง)

ร่างกายเกรอะกรังไปด้วยธุลีเป็นปีๆ จนสะเก็ดขึ้น ไม่เคยทรงลูบออกด้วยฝ่ามือ

เชคุจฉิวัตร (วัตรในความเป็นผู้รังเกียจ)

มีสติก้าวขาเดินไปมา ระวังไม่ให้ทำร้ายสัตว์เล็กน้อย แม้ในหยาดน้ำ

ปวิวิตตวัตร (วัตรในความเป็นผู้สงัดทั่วแล้ว)

ทรงอยู่ราวป่า เมื่อมีคนเลี้ยงโค หรือ ผู้คนผ่านไปมา จะทรงหลบหลีกหนีไป โดยหวังว่า คนพวกนั้นอย่าเห็นท่าน และ ท่านก็อย่าได้เจอคนอื่นๆ

มหาวิกฏโภชนวัตร

ทรงทานน้ำนมจากโคที่ไม่มีเจ้าของ หากมูตรและกรีส (ปัสสาวะและอุจจาระ) ของตนยังไม่หมดเพียงใด ก็จะถือมูตรและกรีสนั้นเป็นอาหารไปตลอดเพียงนั้น

วัตรในการอยู่อุเบกขา

ทรงเข้าไปอยู่ในป่ารกชัฏเพียงผู้เดียว ไม่ว่าจะฤดูใด หนาวหรือร้อน ดังที่พระองค์กล่าวว่า “เรานั้นแห้ง (ร้อน) แล้วผู้เดียว, เปียกแล้วผู้เดียว, อยุ่ในป่าน่ากลัวแต่ผู้เดียว, เป็นผู้มีกายอันเปลือยเปล่า ไม่ผิงไฟ, เป็นมุนีขวนขวายแสวงหาความบริสุทธิ์”

ทรงนอนในป่าช้า ฝูงเด็กเลี้ยงโคมาใกล้แล้ว โห่ร้องใส่หูบ้าง ถ่ายมูตรรดบ้าง ซัดฝุ่นใส่บ้าง เอาไม้แหลมๆท่ิมช่องหูบ้าง แต่พระองค์ก็ไม่ได้มีจิตคิดร้ายต่อเด็กเลี้ยงโค

ขอขอบคุณรูปจากเวปนี้ครับ

http://apichon.multiply.com/photos/album/98/98#photo=3

http://www.2how.com/board/37070.html

*********************************************

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

[ภาพที่ ๒๑] ทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยา ปัญจวัคคีย์เฝ้าปฏิบัติ พระอินทร์ดีดพิณถวายข้ออุปมา


 
1 Comment

Posted by on October 8, 2010 in ธรรมะ

 

Tags: , , ,

One response to “พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญทุกรกิรยาอย่างไร?

Leave a comment