อสงไขย นั้น มาจากภาษาบาลี ว่า อสงฺเขยฺย หมายถึง นับไม่ได้ หรือนับไม่ถ้วน แต่ถ้าจะให้นับแล้ว อสงไขย คือจำนวนที่เท่ากับ เลข 1 ตามด้วย ศูนย์อีก 140 ตัว!!!!!
หลักการนับอสงไขยมีดังนี้ครับ
- สิบ สิบหน เป็น หนึ่งร้อย (100)
- สิบร้อย เป็น หนึ่งพัน (1,000)
- สิบพัน เป็น หนึ่งหมื่น (10,000)
- สิบหมื่น เป็น หนึ่งแสน (100,000)
- ร้อยแสน เป็น หนึ่งโกฏิ (10,000,000 = 1 x 10^7)
- ร้อยแสนโกฏิ เป็น หนี่งปโกฏิ (1 x 10^14)
- ร้อยแสนปโกฏิ เป็น หนึ่งโกฏิปโกฏิ (1 x 10^21)
- ร้อยแสนโกฏิปโกฏิ เป็น หนึ่งนหุต (1 x 10^28)
- ร้อยแสนนหุต เป็น หนึ่งนินนหุต (1 x 10^35)
- ร้อยแสนนินนหุต เป็น หนึ่งอักโขเภนี (1 x 10^42)
- ร้อยแสนอักโขเภนี เป็น หนึ่งพินทุ (1 x 10^49)
- ร้อยแสนพินทุ เป็น หนึ่งอพุทะ (1 x 10^56)
- ร้อยแสนอพุทะ เป็น หนึ่งนิระพุทะ (1 x 10^63)
- ร้อยแสนนิระพุทะ เป็น หนึ่งอหหะ (1 x 10^70)
- ร้อยแสนอหหะ เป็น หนึ่งอพพะ (1 x 10^77)
- ร้อยแสนอพพะ เป็น หนึ่งอฏฏะ (1 x 10^84)
- ร้อยแสนอฏฏะ เป็น หนึ่งโสคันธิกะ (1 x 10^91)
- ร้อยแสนโสคันธิกะ เป็น หนึ่งอุปละ (1 x 10^98)
- ร้อยแสนอุปละ เป็น หนึ่งกมุทะ (1 x 10^105)
- ร้อยแสนกมุทะ เป็น ปทุมะ (1 x 10^112)
- ร้อยแสนปทุมะ เป็น หนึ่งปุณฑริกะ (1 x 10^119)
- ร้อยแสนปุณฑริกะ เป็น หนึ่งอกถาน (1 x 10^126)
- ร้อยแสนอกถาน เป็น หนึ่งมหากถาน (1 x 10^133)
- ร้อยแสนมหากถาน เป็น หนึ่งอสงไขย (1 x 10^140)
ที่มาครับ http://th.wikipedia.org/wiki/อสงไขย
Thank the picture from;
http://www.flickr.com/photos/ashclements/62704073/sizes/z/in/photostream/
ตีรณา
January 29, 2011 at 15:20
พระอาจารย์ท่านเปรียบเทียบไว้ว่า หนึ่งอสงไขย เท่ากับ ทำภูเขาลูกหนึ่งให้ราบเป็นหน้ากลอง โดยใช้ผ้าขาวม้าผืนหนึ่ง
พอมาดูการเปรียบเทียบเป็นตัวเลข แล้ว ระยะเวลา ก็ยาวนานมากกกกกกพอๆกัน
Trang Suwannasilp
January 31, 2011 at 23:47
เคยได้ยินสำนวนที่เทียบ กับระยะเวลาการทำให้ภูเขาราบลงด้วยผ้าเหมือนกันครับ ฟังแล้วท้อเลย ^ ^”
ธนภูมิ
June 8, 2011 at 00:34
หน่วยคือ ปีหรือครับ แล้วกัปละครับ อันไหนนานกว่ากัน
เห็นกล่าวถึง อสงไขยกับ กัป
Trang Suwannasilp
June 8, 2011 at 20:34
อสงไขย เป็นแค่จำนวนนับครับ ไม่มีหน่วย … เหมือนกับคำว่า ร้อย พัน หมื่น แสน
อสงไขย ก็คือจำนวนที่จำนวนที่เท่ากับ เลข 1 ตามด้วย ศูนย์อีก 140 ตัว
คำว่ากัป แปลว่า ช่วงระยะเวลาของการที่จักรวาลเกิดและแตกดับ 1 ครั้ง ครับ
คำว่ากัปนี้ จะว่าเป็นหน่วยนับ ก็ไม่ผิดซักทีเดียว
คำว่า 1อสงไขยกัป ก็แปลว่า จักรวาลได้แตกดับไปแล้วเป็นจำนวนอสงไขยครั้ง
พระพุทธเจ้าของเรา ทรงบำเพ็ญบารมีเป็นเวลา 4อสงไขยแสนกัป แปลว่า ท่านใช้เวลาสั่งสมบารมีเท่ากับ จักรวาลแตกดับไปแล้ว อสงไขย กับอีก แสน ครั้ง ครับ ….. ฟังดูนานมากๆเลยใช้มั้ยครับ ^ ^”
ธนภูมิ
June 9, 2011 at 00:04
พระพุทธเจ้าของเรา ทรงบำเพ็ญบารมีเป็นเวลา 4อสงไขยแสนกัป แปลว่า ท่านใช้เวลาสั่งสมบารมีเท่ากับ จักรวาลแตกดับไปแล้ว อสงไขย กับอีก แสน ครั้ง ครับ ….. ฟังดูนานมากๆเลยใช้มั้ยครับ ^ ^”
40 อสงไขยแสนกัปไม่ใช่เหรอครับ
แล้วที่นี้ ระยะเวลาที่จักรวาลแตกดับ นั้นพอจะประมาณได้มั้ยครับว่า ประมาณกี่ล้านๆปี
ผมเคยคิดเล่นๆ จากการดุลสมการ บนพื้นฐานความเชื่อ เรื่องความสมดุลของธรรมชาติ
ที่ว่า ธรรมชาติจะดุลทุกอย่างให้เท่ากับศูนย์โดยตัวธรรมชาติเอง
เช่น มีแสงก็มีเงา มีทุเรียน(ผลไม้สร้างความร้อนใน และเป็นราชาผลไม้)ก็มีมังคุด(ราชินีผลไม้แก้ร้อนใน) มีสุขก็มีทุกข์ มีกลางวันมีกลางคืน มีพระเจ้าก็มีซาตาน มีเหตุก็มีผล และนั่นแปลว่า ถ้ามีผลก็ต้องมีเหตุ
ที่ผมจะกล่าวก็คือ ถ้าจักรวาลของเรานั้นเป็นจักรวาลที่เดินไปในทิศทางที่นับจากเหตุไปเป็นผล เกิดมาปุ๊บทุกคนร้องไห้ยินดี แล้วเพราะจนถึงพยายามทำตัวให้รวย เสวยสุขของผลกรรมนั้น แต่…ในทางกลับกัน ถ้าการเกิดบิ๊กแบงก์มีจริง จักรวาลขั้นต่อไป ก็น่่าจะเป็นการกลับตัวคือ จากผลไปสู่เหตุ เราเริ่มจากถูกขุดมาจากหลุมศพแล้วก็มีคนมาร้องไห้แสดงความยินดีถึงการเกิดขึ้น ได้ใช้เงินมากมายก่ายกองแล้วก็เผลอทำตัวขี้เกียจจนสุดท้ายก็กลับมาจนอะไรแบบนี้ ในพระไตรปิฏก พระพุทธองค์ทรงได้กล่าวอะไรเกี่ยวกับการแตกดับของจักรวาลหรือไม่ครับ แล้วพระพุทธองค์ได้บอกอะไรเกี่ยวกับระยะเวลาความนานของ กัปมั้ยครับ
Trang Suwannasilp
June 9, 2011 at 08:51
พระพุทธเจ้าของเรา ท่านบำเพ็ญบารมี 4อสงไขยแสนกัป ครับ นี่คือนับเฉพาะช่วงท่านเป็น นิยตโพธิสัตว์ นะครับ
ระยะเวลาของกัป เค้าเปรียบเทียบไว้แบบนี้ครับ
– มีภูเขา กว้าง x ยาว x สูง ด้านละโยชน์หนึ่ง (16 กิโลเมตร) ทุก 100 ปีมีเทวดาเอาผ้าบางมาเช็ดภูเขานั้นหนหนึ่ง อีก 100 ปีก็เอาผ้าลงมาเช็ดถูอีก ภูเขานั้นราบเสมอพื้นเมื่อไหร่ ระยะเวลานั้นถือว่า เท่ากับ 1 กัป
– อีกแบบ มีหลุม กว้าง x ยาว x ลึก หนึ่งโยชน์ ทุก100 ปีมีเทพยดานำเมล็ดผักกาดมาหยอดลง 1 เม็ด หลุมเต็มเมื่อไหร ถือเป็น 1 กัป
ส่วนเรื่องกำเนิดโลกเนี่ย มีพระเคยไปถามพระพุทธเจ้า โดยไปขู่ว่า ถ้าไม่ตอบ ก็จะสึกออกไป พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ตอบครับ โดยบอกว่า อยากสึกก็สึกไป
คำถามแนวๆกำเนิดโลกนี้ ถึงพระพุทธเจ้าท่านจะตอบออกมา คนทั้งหลายก็ไม่สิ้นสงสัยหรอกครับ มันมีคำถามตามมาได้ไม่หยุด
ธนภูมิ
June 12, 2011 at 00:07
ถ้าจำไม่ผิด พระุพุทธตอบพระท่านนั้นประมาณว่า ธนูปักอก แล้วก็เลือกระหว่างดึงลูกศร กับหาคนยิงลูกศร อะไรแบบนี้มั้งครับ ในบทนั้นผมค่อนข้างประทับใจในการตอบของพระพุทธองค์มาก เพราะท่านมักตอบคำถามทุกอย่าง อย่างมีที่มาที่ไปและสมเหตุสมผล ต่อกาลและปัญญาของบุคคลนั้นๆเสมอ วันนี้ผมก็เพิ่งได้มีโอกาสได้คุยกับ ฆราวาสที่เคยไปบวชเป็นพระในระยะเวลาหนึ่ง ที่วัด..อ่าจำชื่อวัดไม่ได้ วัดที่หลวงพ่อปัญญาท่านอยู่อ่ะครับ อดีตหลวงพี่ตอบข้อสงสัยผมได้หลายข้อมาก เสียดายที่สมัยหนุ่มๆ ท่านกินแอลกอฮอล์เยอะไปหน่อย สมองส่วนความจำเลยทำงานได้ไม่เต็มที่ ท่านลืมหลายๆบทและพุทธสุภาษิตไปเยอะเลย แต่หลักธรรมสำคัญๆท่านยังจำได้ และก็เทศสั้นๆแต่ได้ใจความมาก
ส่วนคำถามไหนที่ผมถามแล้ว พระพุทธองค์ไม่ทรงสนับสนุนให้ถามก็จะละทิ้งความสงสัยนั้นไปละกันครับ ขอบคุณครับ
Trang Suwannasilp
June 17, 2011 at 01:01
วัดของหลวงพ่อปัญญาหรอครับ คงเป็นวัดชลประทานตรงปากเกร็ดครับ ผมก็เคยบวชอยู่วัดนี้เหมือนกัน แต่ว่า ไม่ได้บวชนาน ลางานไปบวชได้แค่เดือนเดียว ^ ^”
ตัวผมเอง จำพุทธภาษิตไม่ค่อยได้เลย รุ้สึกว่าเป็นข้อเสียของตัวเองเหมือนกัน
DrRonEnv
June 8, 2012 at 11:26
คุณ trang ครับ
ที่ อุปมา ความยาวกัป ที่เทียบกับภูเขา กับ เรื่องเมล็ดผักกาด (อยู่ในพระไตรปิฎก ปัพพตสูตร และ สาสปสูตร ตามลำดับ) พระพุทธเจ้า ไม่ได้บอกว่า เป็น 1 กัปนะครับ ท่านบอกว่า การกระทำดังกล่าวนี้ ยังไม่ถึง 1 กัปด้วยซ้ำ
ผมเคยลองคำนวณตาม สาสปสูตร โดยใช้สมมุติฐานว่าเมล็ดผักกาด มีขนาด กว้างxยาวxสูง = 5x5x5 มิลลิเมตร จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านล้านล้านปี (นั่นคือ 1 กัป คิดเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านล้านล้านปี หรือ 3×10^24 ปี) เมื่อเทียบกับอายุของเอกภพตั้งแต่บิ๊กแบงนี่พึ่งจะแค่ หนึ่งหมื่นสี่พันล้านปีเท่านั้นเอง
Trang Suwannasilp
June 8, 2012 at 22:00
โอ้วววว ขอบพระคุณมากๆๆๆ เลยครับ
Anonymous
August 17, 2012 at 04:34
ขอพุทธธรรมรักษานะครับผมอ่านแล้วได้เกร็ดความรู้ดี ^ ^ ท่านเป็นผู้รู้โดยแท้จริง
Anonymous
March 4, 2024 at 03:17
มันจะใช่จริง ๆ หรอครับ 1 อสงไขย 1 และตามด้วยเลข 0 ร้อยสี่สิบตัว